loading . . . ข้อตกลง 'One in, one out' ทำไมอังกฤษถึงส่งผู้ลี้ภัยให้กับฝรั่งเศส ข้อตกลง 'One in, one out' ทำไมอังกฤษถึงส่งผู้ลี้ภัยให้กับฝรั่งเศส
Pazzle
Wed, 2025-10-01 - 21:12
ทางการอังกฤษมีข้อตกลงกับฝรั่งเศสชื่อ "เข้ามาหนึ่ง ออกไปหนึ่ง" หรือ "One in, one out" เป็นการแลกเปลี่ยนโดยให้ส่งตัวผู้อพยพเข้าอังกฤษที่ไม่มีเอกสารรับรองไปที่ฝรั่งเศส และทางการอังกฤษได้ส่งผู้อพยพรายแรกให้กับฝรั่งเศสเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหาการใช้ช่องทางไม่ปลอดภัยในการเดินทางเข้าอังกฤษ และสกัดกั้นไม่ให้มีผู้อพยพเดินทางเข้าเมืองโดยใช้เรือเล็กผ่านช่องแคบอังกฤษ
1 ต.ค. 2568 ทางการอังกฤษได้ส่งผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารรับรองรายแรกกลับฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลง "One in, one out" หรือ "เข้ามาหนึ่ง ออกไปหนึ่ง" ซึ่งเป็นข้อตกลงที่อังกฤษได้ทำไว้กับฝรั่งเศส โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้มีผู้อพยพเดินทางเข้าประเทศโดยใช้วิธีการข้ามช่องแคบอังกฤษด้วยเรือขนาดเล็ก
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษได้ยืนยันว่ามีการส่งตัวผู้อพยพรายหนึ่งขึ้นเครื่องบินไปที่ฝรั่งเศส และทางการฝรั่งเศสก็ยืนยันเช่นเดียวกัน สื่ออัลจาซีราระบุว่า ผู้อพยพเป็นชาวเอริเทรีย ประเทศทางตะวันออกของแอฟริกา
ชาบานา มาห์มูด รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษกล่าวว่า การส่งตัวชาวเอริเทรียรายนี้ออกจากอังกฤษถือเป็น "ก้าวแรกทีสำคัญในการปกป้องพรมแดนของพวกเรา" อีกทั้งยังบอกว่ามันจะเป็นการ "ส่งสารให้คนที่เดินทางเข้าประเทศด้วยเรือเล็กว่า ถ้าหากพวกคุณเข้าอังกฤษอย่างผิดกฎหมาย พวกเราก็จะหาทางให้พวกเขาออกจากประเทศไป"
มาห์มูดบอกอีกว่า "ทางการอังกฤษจะยังคงมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้คนที่หนีจากการปราบปรามด้วยใจจริง แต่มันจะต้องกระทำผ่านช่องทางที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย และมีการจัดการ ไม่ใช่การข้ามฟากแบบอันตราย"
แผนการ "One in, one out" นี้มาจากนโยบายรัฐบาล เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษเป็นความพยายามในการควบคุมไม่ให้ผู้อพยพเดินทางผ่านช่องแคบอังกฤษที่พวกเขาบอกว่าเป็นอันตราย โดยที่ข่องแคบอังกฤษนี้นับเป็นช้องแคบที่มีเรือขนส่งสินค้าแล่นผ่านหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ลักลอบเดินทางโดยเรือเล็ก จากสถิติในปี 2568 พบว่ามีกรณีคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบผ่านช่องแคบอังกฤษแล้วอย่างน้อย 23 ราย
ในอีกมุมหนึ่งอังกฤษก็มีกลุ่มต่อต้านผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ก่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองให้กับรัฐบาลสตาร์เมอร์ เช่น กรณีที่กลุ่มต่อต้านผู้อพยพประท้วงที่หน้าโรงแรมที่ใช้เป็นที่พักพิงผู้ลี้ภัย โดยกระแสต่อต้านผู้อพยพนี้ส่วนหนึ่งมาจากการยุยงของฝ่ายขวาจัดอย่างหัวหน้าพรรครีฟอร์มยูเค ไนเจล ฟาราจ ซึ่งเริ่มมีคะแนนนิยมมากขึ้นในอังกฤษ
ในแผนการระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส จึงมีการเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนผู้อพยพกัน โดยให้อังกฤษมีสิทธิในการควบคุมตัวผู้อพยพที่ข้ามช่องแคบอังกฤษเข้าประเทศและไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้สถานะผู้ลี้ภัยในอังกฤษ จากนั้นก็จะมีการส่งตัวผู้ที่พวกเขาควบคุมตัวได้ให้กับฝรั่งเศส และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ทางอังกฤษก็จะยอมรับผู้อพยพจากฝรั่งเศสในจำนวนที่เท่ากับที่พวกเขาส่งไปให้ โดยให้ผู้อพยพจากฝรั่งเศสขอวีซ่าอังกฤษจากช่องทางออนไลน์ได้
แผนการดังกล่าวนี้ได้เริ่มมีการนำมาบังคับใช้แบบนำร่องเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจะดำเนินการไปจนถึงเดือน มิถุนายน 2569
สตาร์เมอร์เคยสัญญาไว้ตอนที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2567 ว่าจะจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ และแก๊งค้ามนุษย์ให้สิ้นซาก รวมถึงจะยกเลิกแผนการอื้อฉาวของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมชุดก่อนที่วางแผนว่าจะส่งตัวผู้อพยพไปยังประเทศรวันดา ซึ่งเป็นแผนการที่ศาลสูงสุดของอังกฤษเคยตัดสินว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มประณาม
ศาลสูงอังกฤษเคยสั่งห้ามส่งตัวชาวเอริเทรียไปฝรั่งเศส
สองวันก่อนหน้าที่รัฐบาลสตาร์เมอร์จะส่งตัวผู้อพยพชาวเอริเทรียไปที่ฝรั่งเศส ศาลสูงในลอนดอนได้สั่งห้ามเป็นการชั่วคราวไม่ให้มีการส่งตัวชาวเอริเทรียออกจากอังกฤษ เนื่องจากชาวเอริเทรียรายนี้ได้บอกว่าเขาเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ทำให้ศาลสูงของอังกฤษให้เวลาเขา 14 วันในการหาหลักฐานพิสูจน์คำให้การของเขา
ส่วนกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษได้ยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้มีการปรับลดเส้นตายการหาหลักฐานลง ทั้งนี้ทางการอังกฤษยังได้ประกาศว่าพวกเขาได้ "เร่งพิจารณา" ร่างกฎหมายต่อต้านการใช้ทาสสมัยใหม่เพื่อ "ป้องกันไม่ให้มีการนำมาใช้ในทางที่ผิด"
องค์กรการกุศลระบุว่า ทางการอังกฤษได้ควบคุมตัวผู้อพยพที่เดินทางโดยเรือเพื่อเตรียมที่จะส่งตัวให้ฝรั่งเศสรวมมากกว่า 90 รายแล้ว
มีองค์กรเอ็นจีโอที่ทำงานด้านผู้อพยพวิพากษ์วิจารณ์แผนการ One in, One out โดยบอกว่ามันวิธีการที่ไม่ได้ผลเสียส่วนใหญ่ สเตลา บอสก์ โฆษกขององค์กร L'Auberge des Migrants กล่าวว่า "จุดประสงค์ของข้อตกลงนี้นำมาปฏิบัติใช้จริงไม่ได้ผล" และมองว่ามันเป็นแค่ "การสร้างภาพทางการเมือง" เท่านั้น
องค์กรการกุศลในอังกฤษได้แถลงประณามแผนการข้อตกลงของสองประเทศนี้ด้วย โดยที่ กริฟฟ์ เฟอร์ริส จากคณะกรรมการร่วมเพื่อสวัสดิการของผู้อพยพ บอกว่ามันเป็น "นโยบายที่โหดร้าย มีการวางเป้าหมายเป็นประชาชนที่เข้ามาที่นี่เพื่อแสวงหาความปลอดภัย" อีกทั้งยังมองว่ามันเป็นแผนการที่ "พยายามอย่างน่าหวาดวิตกเพื่อเอาใจพวกขวาจัดเหยียดผิว"
มีข้อสังเกตจากสื่อว่า แผนการส่งตัวผู้อพยพให้กับฝรั่งเศสครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ฝ่ายขวาจัดนำโดย ทอมมี โรบินสัน จัดการการประท้วงใหญ่ใจกลางกรุงลอนดอนที่มีคนเข้าร่วมราว 150,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีการปลุกปั่นกระแสการกีดกันผู้อพยพลี้ภัยในอังกฤษ
เรียบเรียงจาก
First migrant deported under the UK's 'one in, one out' deal with France, France24, 18-09-2025
https://www.france24.com/en/europe/20250918-first-migrant-deported-under-the-uk-s-one-in-one-out-deal-with-france
First migrant flown back to France in UK's 'one in, one out' policy, ABC News, 18-09-2025
https://abcnews.go.com/International/wireStory/migrant-flown-back-france-uks-policy-curb-unauthorized-125699661
UK court clears the way for deportation of Eritrean asylum seeker, Aljazeera, 18-09-2025
https://www.aljazeera.com/news/2025/9/18/uk-court-clears-the-way-for-deportation-of-eritrean-asylum-seeker
* รายงานพิเศษ
* การเมือง
* สิทธิมนุษยชน
* ต่างประเทศ
* ผู้อพยพ
* ผู้ลี้ภัย
* ช่องแคบอังกฤษ
* การลักลอบข้ามแดน
* คนเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย
* เคียร์ สตาร์เมอร์
* One in One out
* ฝรั่งเศส
* อังกฤษ http://dlvr.it/TNPb2X